กลุ่มภาระงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

Line เอาจริง! ลุยบล็อคแอคเคาท์ที่ใช้โกงเหรียญ Line Coin ใช้ Line ไม่ได้ตลอดไป งานนี้ใครที่ซื้อจากผู้ให้บริการปั๊มเหรียญ Line ที่ให้จำนวนเหรียญ Line Coin เยอะๆในราคาถูกๆ ต้องล้มเลิกความคิดนี้แล้วมาซื้อเหรียญ Line ทางช่องทางปกติดีกว่า หลัง Line เอาจริงลุยจริงแบนชื่อผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการโกงเหรียญ Line Coin ให้ไม่สามารถใช้งาน แอพ Line ได้ตลอดไป แม้เปลี่ยนชื่อผู้ใช้ หรือ Reset Factory แล้วก็ไม่สามารถใช้งานแอพ Line บนเครื่องนั้นได้อีก เหตุการณ์การบล็อคและแบนบัญชีผู้โกงเหรียญ Line Coin เกิดขึ้นหลังทราบจาก สมาชิกเว็บบอร์ด Pantip ได้ตั้งกระทู้เผยขั้นตอนการโกงเหรียญ Line Coin  โดยใช้ซิมการ์ดของ AIS และ dtac แบบเติมเงิน ยอดเงินคงเหลือมากกว่า 32 บาท และเตรียมอีเมลที่ใช้งานจริงแล้ว 1 เดือนขึ้นไป  จากนั้นทำการเติมเหรียญ Line ด้วยช่องทางเรียกเก็บเงินจาก dtac หรือ AIS ตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติ เพื่อใช้ในการโกงคือ  หลังจากซื้อเหรียญ Line Coin แล้ว ไปขั้นตอนรายงานไปขอเงินคืนผ่านทาง Play Store ของ Google เพื่อขอเงินคืน แล้วได้เงินคืนกลับมา และทำในลักษณะนี้ 10 ครั้ง แล้วเปลี่ยนบัญชี Google ใหม่ เพื่อใช้วิธีนี้โกงเหรียญอีกครั้ง เท่ากับว่าเราได้เหรียญมาฟรีๆจำนวนมากแบบไม่ต้องจ่าย หลังจากที่ขั้นตอนโกงเหรียญ Line Coin ถูกเปิดเผยในเว็บบอร์ด Pantip ทำให้ผู้ให้บริการ dtac และ AIS ดำเนินการแก้ปัญหาโดยปิดช่องโหว่ไปพร้อมกับเรียกเก็บเงินย้อนหลังของเบอร์ที่ใช้ในการโกงเหรียญด้วย บางรายโกงเยอะก็ได้รับค่าใช้จ่ายย้อนหลังสูงเป็น Bill Shock ตามมา และเท่านั้นยังไม่พอ Line ก็ใช้มาตรการจัดการกับผู้ที่โกงเหรียญ Line Coin โดยแบนบัญชีผู้ใช้ ให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการต่างๆของ Line ได้ ซึ่งได้ร่วมมือกับพันธมิตร (ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง dtac , AIS และ Truemove H และ ) ในการจัดการปัญหาการโกงเหรียญ Line ครั้งนี้ โดย แบนบัญชีผู้ใช้ Line และแบนโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการโกงเหรียญ Line Coin จะไม่สามารถใช้กับแอพ Line ได้ตลอดไป (ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแอพอื่น ยังสามารถใช้แอพตัวอื่นๆได้ตามปกติ แต่จะใช้แอพ Line ไม่ได้ ) ซึ่ง Line ประเทศไทยจะเตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการโกงเหรียญ Line Coin ในเร็วๆนี้ กระทู้จากพันทิพย์ที่เกี่ยวข้อง >> http://pantip.com/topic/33602781 , http://pantip.com/topic/33631067 UPDATE : Line ออกแถลงการณ์ ดังนี้ “จากนโยบายของทางบริษัท LINE ได้ทำการบล๊อคแอคเคาท์ของผู้ใช้ที่ทำการซื้อเหรียญไลน์ในวิธีไม่เหมาะสม จากการขอคืนเงินเหรียญไลน์เป็นจำนวนหลายครั้งและต่อเนื่อง LINE จะร่วมมือกับพันธมิตรที่เกียวข้องในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวอันอาจจะส่งผลต่อการหยุดให้บริการเหรียญไลน์ในอนาคต ทาง LINE จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการบล๊อคแอคเคาท์ของผู้ใช้ที่ทำการซื้อเหรียญไลน์ในทางไม่เหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใช้อื่นๆ ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในพฤติกรรมดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้“

ทำความรู้จักกับชื่อรุ่น Windows 10 ถึง 7 รุ่น ก่อนจะเลือกรุ่นไหน ที่เหมาะสมกับเรา Microsoft ได้เผยรายชื่อรุ่นย่อยต่างๆของ Windows 10 เพื่อความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่จะใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรายชื่อรุุ่น Windows 10 นี้จะมีถึง 7 รุ่น แบ่งเป็นเวอร์ชั่นพีซี 4 รุ่น เวอร์ชั่นมือถือ 2 รุ่น และออกแบบสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ 1 รุ่น มาทำความรู้จักกันว่า แต่ละรุ่นมีชื่อว่าอะไร และเหมาะกับผู้ใช้คอมหรืออุปกรณ์ไอทีประเภทไหนบ้าง Windows 10 Home เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป เพื่อใช้ในการส่วนตัวและสำหรับครอบครัวภายในบ้าน ใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป โน๊ตบุ๊ค โน๊ตบุ๊คแบบ 2 in 1  แท็บเล็ต ซึ่งคอมส่วนใหญ่ที่ใช้ Windows 7 Home Edition และ Windows 8.1 สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Home ได้ฟรี มีฟีเจอร์ต่างๆใหม่บน Windows 10 เช่น Cortana ผู้ช่วยส่วนตัวประจำคอมพิวเตอร์ของคุณ , Microsoft Edge เว็บเบราเซอร์ตัวใหม่ , มีฟีเจอร์ Continuum โหมดแท็บเล็ตสำหรับอุปกรณ์จอสัมผัส, Windows Hello ระบบรักษาความปลอดภัยในคอมที่มีความสามารถจดจำหน้าผู้ใช้,รองรับการเข้าสู่ระบบดด้วย iris และการแสกนลายนิ้วมือ  มี universal Windows app เช่น Photos, Maps, Mail, Calendar, Music และ Video  และคุณจะได้สัมผัสความบันเทิงการเล่นเกมด้วย Xbox บน Windows 10 Windows 10 Mobile เป็น ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ออกแบบสำหรับโทรศัพท์มือถือ รองรับการทำงาน Universal Windows เหมือนกับ Windows 10 บนคอมพิวเตอร์ มีแอป Office บนมือถือโดยเฉพาะ ซึ่งหน้าตาจะออกแบบเข้ากับขนาดหน้าจอมือถือ และมีอุปกรณ์ใหม่บางตัวสามารถใช้ Continuum for phone ในการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นพีซีเมื่อต่อกับจอใหญ่ได้ (และชื่อนี้ก็เป็นชื่อทางการที่จะใช้แทนชื่อเก่าอย่าง Windows Phoneด้วย ) Windows 10 Pro สำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไป โน๊ตบุ๊ค โน๊ตบุ๊คแบบ 2 in 1 เหมือนกับรุ่น Home แต่บวกฟังก์ชั่นสำหรับการทำงานเรื่องธุรกิจ มีระบบรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ และการทำงานแบบ Remote Desktop แบบเคลื่อนที่ และการใช้งานด้านเทคโนโลยี Cloud ด้วย เป็นระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานแบบ Choose Your Own Device (CYOD) และผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับ Pro  ในองค์กร  Windows 10 มีสนับสนุนการอัพเดตผ่านทาง Windows Update for Business ให้ดูใหม่และปลอดภัยอยู่เสมอ สำหรับพวกบริษัทองค์กรขนาดเล็กโดยเฉพาะ Windows 10 Enterprise เป็นระบบปฏิบัติการขั้นสูง สำหรับบริษัทและองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยสร้างต่อยอดจากคุณสมบัติทั้งหมดใน Windows 10 Pro เพื่อเพิ่มความปลอดภัยกับ อุปกรณ์ ข้อมูลสำคัญของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคล แอปพลิเคชัน ซึ่งต้องปกป้องจากภัยคุกคามที่มีความรุนแรงบนโลกออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้ Windows 10 Enterprise ซื้อได้ผ่านทาง Volume Licensing (VL) Windows 10 Education เป็นระบบปฏิบัติการ Windows สำหรับใช้งานในด้านการศึกษา ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Windowd 10 Enterprise โดยออกแบบสำหรับบุคลากรด้านการศึกษาเช่น เจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร ครู และนักเรียน ในสถานศึกษา ต่างๆ โดยจะมีให้ลูกค้าผ่านทาง VL สำหรับสถานศึกษา ส่วนผู้ใช้ ภายใต้ Windows 10 Home และ Windows 10 Pro จะได้รับ Windows 10 Education ได้ฟรีทางเว็บไซต์ VLSC Windows 10 Mobile Enterprise เป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต สำหรับธุรกิจหรือองค์กร เน้นเรื่องความปลอดภัยสูง การจัดการข้อมูลส่วนตัว กับข้อมูลบริษัท  โดย Windows 10 Mobile Enterprise จะมีให้ลูกค้าผ่านทาง VL Windows 10 IoT Core สำหรับพวกอุปกรณ์ราคาประหยัด เช่น gateways เป็นต้น นอกจาก Windows 10 มีถึง 7 รุ่นแล้ว ยังมี Windows 10  Windows 10 Enterprise และ Windows 10 Mobile Enterprise แบบพิเศษ ที่ออกแบบสำหรับใช้เป็น งานด้าน ATM หรือ POS ด้วย ซึ่งธนาคารรายไหนที่ใช้เครื่อง ATM ที่เป็น Windows xp ซึ่งพบเป็นส่วนใหญ่และเก่ามากแล้วทันทีที่รุ่นนี้ออกมา ก็สามารถทำงานเป็น ATM แทนรุ่นเก่าได้เลยและได้รับความปลอดภัยมากขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่จะซื้อคอมเครื่องใหม่หรืออัพเกรดระบบปฏิบัติการ Windows 10 นั้น  จะเลือกรุ่นไหนดี สำหรับผู้ใช้คอมทั่วไป สามารถเลือกได้ระหว่าง Windows 10 Home เพื่อความบันเทิง และใช้งานส่วนตัว ส่วนกรณีทำธุรกิจ หรือบริษัทขนาดเล็ก ต้องการด้านความปลอดภัยระดับนึงด้วยก็เลือก Windows 10 Pro ส่วนผู้ที่จะซื้อมือถือระบบปฏิบัติการ Windows ก็จะเลือกได้ตัวเดียวคือ Windows 10 Mobile และสำหรับผู้ใช้มือถือ Windows Phone อยู่แล้วและทราบว่ารองรับ Windows 10 Mobile ก็จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Mobile ได้ฟรีเช่นกัน ส่วนกรณีบริษัท หรือองค์กร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารว่า จะลงทุนเปลี่ยนแปลงมาใช้ Windows 10 Pro , Windows 10 Enterprise ,  Mobile Enterprise , หรือเปล่า และจะใช้โซลูชั่น Windows 10 Mobile Enterprise เพื่อให้พนักงานใช้มือถือของบริษัทเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ + ความปลอดภัยหรือไม่ บุคลากรด้านการศึกษา ที่จะใช้ Windows 10 Education นี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารในสถาบันที่จะยอมรับและตกลงเงื่อนไขกันระหว่าง สถาบันการศึกษากับ Microsoft หรือไม่ ถ้าได้ ทั้งผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ครู และนักเรียนก็จะได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Education บนคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ภายในห้องเรียน ห้องทำงาน ของสถาบันการศึกษา **ซึ่งรายละเอียดเงื่อนไขการซื้อหรือการอัพเกรด เป็น Windows 10 ในแต่ละ Edition รอความชัดเจนจากทาง Microsoft อีกครั้ง เบื้องต้นสำหรับผู้ใช้คอมระบบปฏิบัติการ Windows 7, Windows 8.1 จะได้รับการอัพเกรดเป็น Windows 10 Home และ Windows 10 Pro ตามลำดับ และสำหรับ  Windows Phone 8.1 จะได้อัพเกรดเป็น Windows 10 Mobile โดยทั้งหมดนี้อัพเกรดฟรีเฉพาะภายในปีแรกที่ Microsoft จะเปิดตัว Windows 10 ในช่วงฤดูร้อนของประเทศสหรัฐอเมริกาของปีนี้ ส่วนผู้ที่ทดสอบ และผู้ที่สนใจทดสอบ Windows 10 อยู่ ยังสามารถทดลอง Windows  10 ได้ฟรีต่อไปจนกว่าจะมีประกาศเกี่ยวกับวันจำหน่าย Windows 10 เวอร์ชั่นสมบูรณ์ ซึ่งทันทีที่ทราบจะเริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดสิ้นสุดการทดสอบ Windows 10 ด้วย หากคุณยังไม่เคยทดสอบ Windows 10 เลย สามารถร่วมทดลอง Windows 10 Preview ได้ฟรี รายละเอียดและเข้าร่วมทดสอบได้ที่หน้าเว็บไซต์https://insider.windows.com ข้อมูลจาก Windows Blog

Windows 10 จะเป็นชื่อ Windows เวอร์ชั่นสุดท้าย! ใครที่เป็นผู้ใช้ Microsoft Windows ระบบปฏิบัติการยอดนิยม ที่มาบูมสุดขีดตั้งแต่  Windows 95 , 98 , 2000 , Me , Xp , Vista  จนกระทั่งรุ่นปัจจุบันที่ตอนนี้ ผู้ใช้ Windows ส่วนใหญ่จะใช้ 3 รุ่นนี้คือ Windows 7 , Windows 8 และ Windows 8.1 และยิ่งปลายปีนี้จะออก Windows 10 อีกแต่ ทิศทางวิสัยทัศน์ของMicrosoft ที่น่าสนใจคือ ในอนาคตจะใช้ Windows 10 อย่างเดียว และจะไม่มีมีชื่อ Windows รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวต่อจาก Windows 10 อีก คุณ Jerry Nixon นักพัฒนาจาก Microsoft ขึ้นกล่าวในงาน ignite เผยว่า “แนวทางของ Microsoft ต่อไปนั่นคือ “Windows as a Service” นั่นหมายความว่า Windows รุ่นใหม่ ที่ต่อจาก Windows 10 เวอร์ชั่นเต็มนั้น จะเหลือแค่การอัพเดตย่อยๆให้ล่าสุดอยู่เสมอ แทนที่การปล่อย Windows เวอร์ชั่นใหม่แบบเป็นชุดใหญ่ออกมา ทั้งนี้ผู้ใช้ Windows 7 และ Windows  8, 8.1 สามารถอัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ และใช้ได้ฟรีนาน 1 ปี นั่นหมายความว่าหากใช้ครบ 1ปีหลังจากอัพเกรดสมบูรณ์จะต้องเสียค่าบริการ ซึ่ง Windows 10 อาจให้บริการในรูปแบบ subscribe บอกรับสมาชิกรายปี เพื่อได้รับการปรับปรุงและอัพเดตที่ดีกว่า ซึ่งบริการแบบนี้ก็คล้ายคลึงกับ Office 365 ที่บอกรับสมาชิกแบบรายเดือนหรือรายปี และได้รับการอัพเดตจาก Microsoftตลอดเวลาเช่นกัน และทิศทางของ Microsoft โดยท่านซีอีโออย่าง Satya Nadella ได้มุ่งไปที่ Cloud First และ Mobile First ด้วย เราจะเห็นบริการของ Microsoft ในรูปแบบ cloud มากขึ้น  อย่าง office และ Windows ก็มุ่งไปทาง Cloud แล้ว ส่วนด้าน Mobile ก็เริ่มบุกหลายแพลตฟอร์มผ่านทางแอพ Office บนมือถือ  , Cortana ที่จะอยู่บน ios , android ด้วย และ windows Phone รุ่นใหม่ที่จะสามารถทำงานเข้ากับ Windows 10 รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆอย่าง Xbox one และฮาร์ดแวร์ตัวล่าสุดอย่าง Holo Lens ด้วย ข้อมูลจาก Techradar

ปกป้องบัญชี Google ไม่ให้ถูกขโมย หรือโดนแฮค ด้วย Password Alert ในบางครั้ง ท่านอาจเผลอกรอกรหัสใส่ในหน้าเว็บปลอม หรือฟิชชิ่ง ซึ่งที่เป็นเว็บไซต์ของผู้ไม่หวังดีที่จะหวังจะขโมยรหัสผ่านของคุณ อย่างหน้านี้ดูเป็นเว็บ Google แต่ความจริงแล้วเป็นเป็นไซต์ปลอม Phishing ถ้าคุณเผลอให้รหัสแก่คนร้ายแล้ว เค้าจะได้รหัสผ่านและสามารถแอบเข้าถึงบัญชี Google ของคุณได้ ซึ่งการโจมตีแบบ Phishing นี้ ประสบความสำเร็จสูงถึง 45% เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน  Google จึงเปิดตัวส่วนเสริม หรือส่วนขยายของ Chrome  ชื่อว่า Password Alert ซึ่งจะคอยช่วยแจ้งเตือนรหัสผ่าน เพื่อปกป้องบัญชี Google และบัญชีGoogle Apps สำหรับการทำงาน  แค่ติดตั้งรหัสผ่านเพียงครั้งเดียว Password Alert จะแสดงคำเตือนกรณีที่คุณพิมพ์รหัสผ่านบัญชี Google ลงในหน้าที่ไม่ใช่หน้าล็อกอินของ Google เอง วิธีนี้ช่วยป้องกันจากการโจมตีของฟิชชิ่ง นี่เป็นการรักษาความปลอดภัยอย่างดีที่สุดให้กับแต่ละบัญชีของคุณ สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งบนเบราว์เซอร์ Chrome ฟรี ผ่านทาง Chrome Web Store คลิกที่นี่… หลักการทำงานคือ เมื่อคุณติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน Password Alert บน Chrome แล้ว  Chrome จะจดจำแนวทางการจัดเรียงรหัสผ่านบัญชี Google ของคุณ  โดยระบบจะจดจำข้อมูลนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของบัญชี และไม่เผยแพร่ข้อมูลนี้ไปที่อื่น  ต่อไปหากคุณใส่รหัสผ่านในหน้าเพจที่ไม่ใช่ของ Google ฟีเจอร์ Password Alert จะแจ้งเตือน เพื่อบอกว่าคุณกำลังเข้าถึงเวบอันตรายถึงความเสี่ยงที่จะถูกล่อลวง  ในส่วนของผู้ใช้  Google For Works ,Google Apps และ  Drive for Work สามารถใช้บริการ Password Alert ได้แล้วเช่นกัน โดยผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Password Alert ของทุกคน ผ่านโดเมนที่พวกเขาดูแลอยู่ และจะได้รับการแจ้งเตือนหาก Password Alert ทราบว่าเว็บที่คุณเข้าเป็น Phishing นอกจากจะออกส่วนเสริม Password Alert บน Chrome แล้ว Google ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยี safe browsing ซึ่งช่วยปกป้องผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 1 พันล้านราย บน chrome , safari , firefox  ด้วย และ google ยังแนะนำให้ใช้เครื่องมืออย่าง 2-Step Verification และ Security Key เพื่อปกป้องบัญชี Google และสามารถใช้  Security Checkup เพื่อตรวจสอบบัญชีของคุณว่ามีคนอื่นแอบใช้บัญชี Google ของเราหรือไม่

                              คณะวิทยาศาสตร์ มข. จัดโครงการอบรม “ความมั่นคงระบบสารสนเทศคณะวิทยาศาสตร์”   เพื่อให้หน่วยงานและผู้สนใจเกิดการตระหนักถึงความสำคัญในแนวทางการสร้างและรักษาความมั่นคง ปลอดภัย ของระบบสารสนเทศในหน่วยงาน                                    7 พ.ค.58_คณะวิทยาศาสตร์ มข. จัดโครงการอบรม เรื่อง “ความมั่นคงระบบสารสนเทศคณะวิทยาศาสตร์”  ณ ห้องประชุมสารสิน อาคารสิริคุณากร มข.  เพื่อให้หน่วยงานราชการภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น และผู้สนใจทั่วไป ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการหาแนวทางสร้างความมั่นคง ปลอดภัยให้แก่ระบบสารสนเทศของหน่วยงาน  โดยมี ดร.กิตต์ เธียรธโนปจัย ผู้อำนวยการศูนย์คอมพิวเตอร์ มข. เป็นประธานเปิดการอบรมฯ    ผศ.ดร.สมเกียรติ ศรีจารนัย คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มข. กล่าวรายงาน   มีผู้เข้าอบรมครั้งนี้ รวม 65 คน                 กิจกรรมการอบรมครั้งนี้ คณะวิทยาศาสตร์ มข. ได้เชิญ นายณรงค์เดช วัชระภาสร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ และ นายศรัณย์ ทองคำ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ  ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ บรรยายใน 2 หัวข้อหลัก คือ หัวข้อ “ปัญหาการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550” (แนวโน้มการกระทำความผิดในปัจจุบัน/  จริยธรรมในการใช้งานอินเตอร์เน็ต/การสร้างความตระหนักในเรื่อง Cyber Security/ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และการบังคับใช้)  และ หัวข้อ “การตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นหากพบการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ และข้อจำกัดต่างๆ ทั้งด้านกฎหมายและด้านเทคนิค” (การตรวจสอบและวิเคราะห์ภัยคุกคามในมุมมองของการนำไปใช้เป็นพยานหลักฐาน และ การสร้างความตระหนักในประเด็นพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์)                                    ผศ.ดร.สมเกียรติ ศรีจารนัย  คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มข. กล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์เรามากขึ้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ มิติ ของสังคม รวมไปถึงการนำระบบสารสนเทศมาประยุกต์ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งระบบงานราชการและเอกชน   คณะวิทยาศาสตร์ มข.  ได้เล็งเห็นความสำคัญของการใช้ระบบสารสนเทศรวมถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ เป็นอย่างยิ่ง จึงได้จัดโครงการอบรมครั้งนี้ขึ้น  เพื่อให้หน่วยงานราชการและผู้สนใจเกิดการตระหนักถึงความสำคัญในแนวทางการสร้างและรักษาความมั่นคง ปลอดภัย ของระบบสารสนเทศในหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน”        

    เพื่อตอบรับกับการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เปิดโอกาสให้บุคลากรหน่วยงานต่างๆ ของคณะฯ  มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและออกแบบเว็บไซต์หน่วยงานของตนได้มากยิ่งขึ้น   กลุ่มภาระงานเทคโนโลยีสารสนเทศ  จึงได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “เว็บไซต์หน่วยงาน คณะวิทยาศาสตร์”  ขึ้น ณ ห้อง 8210 อาคารวิทยาศาสตร์ 08   เมื่อวันที่ 11 ก.พ.58   โดยมี อ.ดร.สุมณฑา เกษมวิลาศ  ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ เป็นประธานเปิดการอบรม     มี นายภิญโญ อาจสาลี นักวิชาการคอมพิวเตอร์  บรรยายแนะนำโปรแกรม Joomla   เพื่อรองรับการใช้งานเว็บไซต์หน่วยงาน    การฝึกปฏิบัติการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ  และการแข่งขันการจัดหน้าเว็บไซต์หน่วยงาน  ซึ่งผู้เข้าอบรมประกอบด้วยบุคลากรของหน่วยงานต่างๆ ภายในสำนักงานคณบดี คณะวิทยาศาสตร์  ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลในด้านต่างๆ ของคณะ    ซึ่งผลจากการจัดฝึกอบรมครั้งนี้ ทำให้บุคลากรมีเข้าใจ  วิธีใช้งานระบบ ทราบขั้นตอนและเทคนิคต่างๆ  ในการเผยแพร่ข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ของหน่วยงาน  ที่จะมีความสะดวกรวดเร็วและได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น ทั้งผู้ใช้ระบบและผู้เข้าดูเว็บไซต์